หนังสยองขวัญ
หนังสยองขวัญ อากาศหนาว ๆ เช่นนี้ มาเพิ่มเติมอีกความตื่นเต้นให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นด้วยกับหนังสยองขวัญ 25 เรื่องกันดีกว่าจ้ะ การันตีว่าเป็นหนัง กระตุกจิต! กระชากใจ! จนส่งผลให้เพื่อที่จะน ๆ ตื่นเต้นแบบพุ่งปรี๊ดอย่างแน่ๆ! แถมนักศึกษาค้นคว้าจาก Westminster วิจัยว่า การชมหนังสยองขวัญ 90 นาที ช่วยเผาผลาญได้ถึง 113 แคลอรีอีกต่างหากนะ ว่าแต่จะมีเรื่องมีราวไหนน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันเลยจ้า เข้าใกล้วันฮัลโลวีนเต็มทีแล้ว คนไหนที่ยังไม่มีแพลนไปปาร์ตี้ตรงไหน อยู่บ้านนี่แหละก็สร้างบรรยากาศสุดหลอนได้ด้วยการเปิดหนังผี พูดเลยแต่ละเรื่องที่พวกเราสะสมมาให้ดู ใครใจไม่แข็งพอนำเสนอให้ปิดตาแค่กึ่งหนึ่งค่ะ รับประกันว่าเป็นหนังผีน่ากลัวจนต้องเปิดไฟนอนกันอย่างยิ่งจริงๆ วันนี้มีหนังผีแนะนำมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็น หนังผีชาวต่างชาติ หนังผีเกาหลี หลอนสุดยกให้หนังผีไทย! มีทุกแนวใครไหวไปหาชมกันเล้ยยย
ถ้าเอ๋ยถึงหนังสยองขวัญหรือที่ถ้อยคำอังกฤษเรียกกันว่าหนัง Horror แล้ว คนไม่ใช่น้อยนิยมจะมีความรู้สึกว่าเป็นหนังผี ปีศาจหรือภูตผีและวิญญาณต่าง ๆ ตามหลอกหลอน แต่จริง ๆ แล้วหนังสยองขวัญนั้นมีคำจำกัดความที่กว้างมาก เหตุเพราะบางเรื่องเกือบไร้ผีหรือวิญญาณใด ๆ เลยด้วยซ้ำ แต่กลับมุ่งเน้นบท ฉาก ใบหน้านิสัยของนักแสดง บรรยากาศ การกำกับ มุมกล้องและส่วนประกอบอื่น ๆ ของภาพยนตร์มาใช้ให้คนดูเชื่อว่ามีอะไรบางสิ่งที่ไม่ถูกธรรมดาหรือให้ความตื่นเต้น ความน่ากลัวกับคนชมได้อย่างแนบเนียน
หนังสยองขวัญ ลุ้นจนตัวเกร็ง สนุกลุ้นจนหยุดดูแทบไม่ได้!
หนังสยองขวัญมีให้คัดเลือกดูเยอะๆทางออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นหนังไทย หนังสยองขวัญ หนังต่างประเทศอย่างหนังคนต่างประเทศ หนังเกาหลี รวมไปถึงเนื้อเรื่องอีกหลายแนวอย่างที่ยกเอาสถานะการณ์ต่าง ๆ ทั้งในบ้าน ในครอบครัว หรือเรื่องราวอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น เทศกาลต่าง ๆ ฆาตกรรม หรือแม้กระทั้งจากสถานะการณ์จริง มาสร้างการทำงานที่ผ่านมาขนหัวลุกและสะดุ้งกันตลอดทั้งเรื่อง โดยวันนี้พวกเราจะมารีวิว 20 หนังสยองขวัญ ทั้งของไทยและเมืองนอก จะมีเรื่องราวไหนเบิกบานและน่าชมบ้าง ตามไปดูกันเลย !
The Pusher Series (1996-2004)
หนังสามภาคที่เป็นงานแจ้งเกิด นิโคลาส วินดิง เรฟน์ (Nicholas Winding Refn) ที่สามารถแก้โจทย์ยาก ๆ อย่าง หนังไตรภาคให้ออกมาดีทุกเรื่อง ได้สำเร็จ โดยมิกเคลเซนมีบทแค่ในสองเรื่องแรก กับการรับบท ทอนนี (Tonny) คนค้าเฮโรอีนในโคเปนเฮเกน ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นเด็กเดินยาในภาคแรก และกลายเป็นหัวแถวในภาคสอง แน่นอนว่าบทของมิกเคลเซนคือตัวร้ายของหนัง แต่ด้วยการแสดงระดับเทพ แม้จะเป็นในหนังใหญ่เรื่องแรกของตัวเอง ต่อให้โฉดโหดขนาดไหน เขาก็สามารถสร้างความน่าเห็นอกเห็นใจในตัวละครรายนี้ได้ จนกลายเป็นที่มาของฉากที่สะเทือนอารมณ์มาก ๆ ของหนังในท้ายที่สุด
Casino Royale (2006)
งานทำให้มิกเคลเซนเข้าตาผู้ชมหนังกระแสหลัก (Mainstream) แม้เลอ ชิฟฟร์แทบจะเป็นตัวร้ายจากแม่พิมพ์เดิม ๆ ในหนังบอนด์ ที่ดูเหมือนไม่น่ามีอะไรให้เขาเล่นมากนัก เพราะแค่ภาพลักษณ์ ดวงตาที่แข็งกร้าว บุคคลิกดูเย็นชา ก็รู้สึกทันทีว่า มิกเคลเซนน่าจะเอาอยู่ สอบผ่านไปได้สบาย ๆ แต่มิกเคลเซนทำให้บทที่ดูไม่น่ามีอะไรใหม่ กลายเป็นความฉูดฉาดขึ้นมาได้ เมื่อยกระดับความเคร่งเครียดของตัวละครขึ้นมาอีก โดยไม่ล้นเช่นที่นักแสดงหลาย ๆ คนที่เล่นเป็นตัวร้ายของบอนด์ทำเอาไว้ โดยเฉพาะฉากที่ต้องประมือกับบอนด์ในเกมโป๊กเกอร์ ซึ่งสัมผัสถึงไหวพริบของตัวละครที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับตัวเอกของเรื่อง รวมถึงกลิ่นไอของความเหี้ยม ที่ได้รับรู้เต็ม ๆ เมื่อบอนด์โดนเลอ ชิฟฟร์ทรมาน
The Hunt (2012)
ในหนังของผู้กำกับ โธมัส วินเทอร์เบิร์ก (Thomas Vinterberg) เรื่องนี้ มิกเคลเซน รับบท ลูคัส (Lucas) ครูโรงเรียนอนุบาลที่โลกของเขาถูกฉีกทึ้งจากการถูกกล่าวหาว่า ล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ตัวละครตกอยู่ในสภาพถูกข่มเหงและตกเป็นเหยื่อ จนดูสิ้นหวัง น่าสะพรึงกลัว และเต็มไปด้วยความวิตกกังวล แม้จะดูเหมือนมีความร้ายกาจอยู่ในตัว
หากด้วยอารมณ์ที่มิกเคลเซนแสดงออกมา รวมถึงท่าทางที่น่าเห็นใจ ก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ยากจะทานทน หนังเข้าชิงออสการ์รางวัลหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ส่วนมิกเคลเซนได้รับคำชื่นชมจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม รวมถึงเป็นหนึ่งในการแสดงที่เยี่ยมที่สุดที่เขามอบให้กับโลกภาพยนตร์
Hannibal (2013-15)
หนังมาร์เวลก็เล่นมาแล้ว หนัง Star Wars ก็เคยมีบท หนัง James Bond ก็อยู่ในเครดิต แต่ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของมิกเคลเซน สำหรับการทำงานกระแสหลักก็คือ การรับบทฮันนิบอล เล็กเตอร์ (Hannibal Lecter) ตัวละครที่คนทั้งโลกเชื่อว่า ไม่มีใครที่จะเล่นเป็นตัวละครรายนี้ได้ดีกว่า แอนโธนี ฮ็อปกินส์ (Anthony Hopkins) จนกระทั่งซีรีส์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้น ในแบบที่ตัดเย็บถักทอเรื่องราวอย่างดี
เล่าเรื่องได้อย่างชาญฉลาด และคัดเลือกนักแสดงได้อย่างเหมาะเจาะ ไม่ว่าจะเป็นการเลือก ฮิวจ์ แดนซี (Hugh Dancy) มารับบทวิลล์ แกรห์ม (Will Graham) เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ต้องอาศัยความสามารถของเล็กเตอร์ในการตามล่าฆาตกรโรคจิต และพวกฆาตกรฆ่าต่อเนื่องทั้งหลาย ก่อนที่จะรู้ว่าเล็กเตอร์ต่างหากที่เป็นตัวการสำคัญ
ซึ่งมิกเคลเซนมอบการแสดงในระดับไม่มีที่ติให้ ส่วนการต่อกรของทั้งคู่ที่เกิดขึ้นในทุกตอน ก็คือเกมหมากรุกชั้นเยี่ยมที่ยากจะละสายตาน่าเสียดายที่ซีรีส์ไปได้ไกลแค่ 3 ฤดูฉาย ไม่ได้ไปแตะเรื่องราวของ The Silence of the Lambs อย่างที่ควรจะเป็น แต่เพียงแค่นี้ การแสดงของมิกเคลเซนก็ทำให้ฮันนิบาล ไม่ใช่บทของฮ็อปกินส์เพียงคนเดียวอีกต่อไป
The Salvation (2014)
อาจจะไม่ใช่งานที่รู้จักมากนักของมิกเคลเซนแต่ก็ดูแปลกตา เมื่อได้เห็นเขามีบทบาทในหนังตะวันตก มิกเคลเซนเป็นชาวเดนมาร์กที่อพยพมาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกายุค 1870s แต่เมื่อภรรยาถูกฆ่าเขาเลยต้องล้างแค้น ที่ทำให้เกิดผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตน้องชายที่กลายเป็นเดิมพันสำคัญ ตัวเองถูกเจ้าของที่ดินผู้ไร้ความปราณีตามล่า โดยชาวเมืองไม่มีใครกล้าลุกขึ้นสู้ร่วมกับเขา หนังเป็นงานตะวันตกล้างแค้นสไตล์เก่า แต่การแสดงของมิกเคลเซนได้รับการชื่นชมอย่างมาก เขาได้ประกบอีวา กรีน (Eva Green) สาวบอนด์จาก Casino Royale เป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้มิกเคลเซนไม่ใช่ตัวร้าย เป็นเจฟฟรีย์ ดีน มอร์แกน (Jeffrey Dean Morgan) ที่มักเล่นเป็นคนดีมารับหน้าที่แทน
Men & Chicken (2015)
หลังรู้ว่าพ่อของพวกเขาไม่ใช่พ่อแท้ ๆ เมื่อเขาจากไป สองพี่น้องตัดสินใจออกเดินทางไปยังเกาะที่อยู่ห่างไกล เพื่อไปพบกับบรรดาเครือญาติประหลาด ๆ ที่ทำให้ทั้งคู่ได้ค้นพบตัวเองไปในคราวเดียวกัน แม้ตัวหนังอาจจะทำให้ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า “นี่มันหนังอะไร (วะ)?” แต่ Men & Chicken ก็พร้อมพาผู้ชมเดินทางไปกับตัวละคร ที่พยายามยอมรับกันและกัน รวมถึงการเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วก็ได้สัมผัสทักษะการแสดงของมิกเคลเซนในระดับที่เรียกว่า “โชว์พรสวรรค์” เต็มที่ เมื่อเขากลายเป็นตัวละครในหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่หนังเองก็ผสมผสานอารมณ์ขันพิลึก ๆ กับความเป็นดรามาได้อย่างลงตัว
Rogue One: A Star Wars Story (2016)
ปีนี้มิกเคลเซนปรากฏตัวในหนังแฟรนไชส์ระดับบิ๊กถึง 2 เรื่อง และเป็นงานในชายคาดิสนีย์ทั้งคู่ ในเรื่องนี้ที่เป็นงานตอนแยก และเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนเรื่องราวใน Star Wars Episode IV: A New Hope มิกเคลเซนเป็น กาเลน เออร์โซ (GalenErso) คนออกแบบดาวมรณะ
หากไม่ใช่ตัวร้ายเช่นที่ฮอลลีวูดชอบให้เขาเล่นเป็นประจำ เพราะกาเลนยังเป็นพ่อของจิน เออร์โซ (Jyn Erso) ตัวเอกของหนัง ผู้นำทีมขบถฉกพิมพ์เขียวดาวมรณะจากฝ่ายจักรวรรดิเพื่อส่งให้พวกขบถ มิกเคลเซนมีเวลาในหนังไม่มาก กับการเป็นพ่อผู้พยายามปกป้องครอบครัวทุกวิถีทาง แม้จะแลกมาด้วยชีวิต ซึ่งเขาสร้างเลือดเนื้อ และจิตวิญญาณให้กับตัวละครได้เป็นอย่างดี
Doctor Strange (2016)
จากคนดีใน Rogue One มิกเคลเซนกลายมาเป็นตัวร้ายในหนังจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่เป็นการเปิดตัวละครใหม่ ดร. สเตรนจ์ ที่รับบทโดยเบเนดิกต์ คัมเบอร์แบ็ตช์ (Benedict Cumberbatch) หมอผ่าตัดผู้จองหอง ที่ประสบอุบัติเหตุจนทำงานไม่ได้อย่างที่เคยเป็น
และการหาหนทางรักษาไปถึงดินแดนลี้ลับทำให้เขาได้พบพลังพิเศษ กลายเป็นซูเปอร์ฮีโรที่ต้องเผชิญหน้ากับ แคซิเลียส (Laecilius) ของมิกเคลเซน ที่หวังนำโลกไปสู่ด้านมืด แม้ไม่ถึงกับเป็นตัวละครที่ “ว้าว!” เหมือนกับงานด้านภาพของหนัง แต่มิกเคลเซนก็ทำให้วายร้ายรายนี้เป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับสเตรนจ์ ส่วนตัวหนังก็ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
Arctic (2018)
หนังต้องรอด ที่จับมิกเคลเซนไปเผชิญกับสภาพความหนาวเย็น กับการรับบทเป็นผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินตกในอาร์กติก ที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดรอความช่วยเหลือ หรือว่าเสี่ยงกับสภาพอากาศที่แสนทารุณเพื่อไปตายเอาดาบหน้า โดยที่ยังมีหญิงสาวบาดเจ็บอยู่ในการดูแล ตัวละครของมิกเคลเซนในเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นพวกเฉลียวฉลาดแล้ว ยังเป็นพวกมีสติ ซึ่งเขาก็ทำให้ตัวละครรายมีสิ่งที่ว่ามาได้อย่างน่าเชื่อถือ มีศักยภาพมากพอที่จะเอาตัวเองและเพื่อนร่วมทางรอดชีวิตได้ หากต้องรอด ขณะที่การเล่าเรื่องของหนังก็ทำได้เยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อตัวร้ายของหนัง ไม่ใช่ใครอื่น ธรรมชาติ ที่ตัวละครในเรื่องแทบไม่มีทางสู้หรือรับมือไหว
Riders of Justice (2020)
งานเบาสมองที่มาพร้อมความดาร์ก ที่อาจทำให้ตัวละครของเลียม นีสัน (Liam Neeson) ใน Taken ต้องหมอง มิกเคลเซนเป็นทหารผ่านศึกที่กลับมาบ้านเพื่อดูแลลูกสาว หลังภรรยาเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถไฟ ทุกอย่างดูปกติจนหนึ่งในผู้รอดชีวิตมาบอกเขาว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ทำให้เขาตัดสินใจออกล่าคนที่อยู่เบื้องหลัง มิกเคลเซนในบทชายที่หัวใจสลายเพราะการจากไปของภรรยา คือกระดูกสันหลังของหนัง เมื่อตัวละครของเขาพยายามรวบรวมผู้คนที่ไม่ได้มีศักยภาพเรื่องการล้างแค้น มาทำสิ่งที่พวกเขาไม่ถนัด หนังแสดงถึงพัฒนาการของตัวละคร ทั้งของมิกเคลเซนและบรรดานักแสดงสมทบ ก่อนจะเดินหน้าเต็มตัวอย่างเข้มข้น ซึ่งมิกเคลเซนเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองเดนมาร์กจากบทในเรื่องนี้ด้วย
การร่วมงานอีกครั้งของมิกเคลเซนและวินเทอร์เบิร์ก ที่ไม่ใช่แค่ชนะใจนักวิจารณ์และผู้ชม แต่ยังคว้ารางวัลออสการ์หนังนานาชาติยอดเยี่ยม วินเทอร์เบิร์กเองก็ได้เข้าชิงรางวัลผู้กำกับ และเป็นอีกครั้งที่มิกเคลเซนรับบทเป็นครู หากหนนี้ตัวละครของเขากับเพื่อน ๆ ที่ถกกันถึงทฤษฎีที่ว่า มนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับการมีแอลกอฮอล์ในเลือดที่ต่ำเกินไป พวกเขาจึงตัดสินใจทำการทดลองว่า การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะส่งผลกับชีวิตพวกเขาได้ยังไง และการทดลองครั้งนี้ก็ส่งผลกระทบบางอย่างตามมาจริง ๆ มิกเคลเซนมอบการแสดงที่สร้างสมดุลระหว่างอารมณ์ขันและดรามาได้อย่างยอดเยี่ยม จนถึงขั้นเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองของอังกฤษ ความสำเร็จของหนังส่งผลให้ถูกฮอลลีวูดซื้อเพื่อนำไปรีเมกเป็นฉบับอเมริกัน