ดาบมังกรหยก ตอนประมุขพรรคมาร มหกรรมศิลปกรต่อสู้แฟนตาซีที่ดุเด็ดเผ็ดมันและสดใสร่าเริงที่มีดาบอันมีคุณค่า – แล้วก็นักกระบี่พระผู้เพ้อคลั่งที่ติดอยู่ที่หินเกลือก (ใช่!) การประลองของกรุ๊ปตามที่เป็นจริงจังแล้วก็ลัทธิรวมทั้งมนต์และก็การบินมากมาย ผลงานภาพยนตร์จีนที่พูดถึงตอนหนึ่งจากบทกลอนของ กิมย้ง (Jin Yong)

เรื่อง The Heaven Sword and Dragon Saber (倚天屠龍記) ซึ่งถือว่าเป็นภาคที่ 3 ของนิยายกำลังภายในเรื่อง มังกรหยก มาแปลความใหม่ โดยภาพยนตร์ชุดนี้อำนวยการสร้างโดย หลี่เหลียนเจี๋ย (Jet Li), ดูแลคิวบู๊โดย หงจินเป่า (Sammo Hung) แล้วก็ควบคุมโดย หวังจิน (Wong Jin)

ดูหนัง The Kung Fu Cult Master (1993)
ดาบมังกรหยก ตอนประมุขพรรคมาร

“กระบี่อิงฟ้าแล้วก็กระบี่ฆ่ามังกร” 2 ศาสตราวุธที่จอมยุทธ์ ก๊วยเยี่ยม รวมทั้ง อึ้งย้ง ได้ผลิตขึ้นมา โดยการนำกระบี่เหล็กนิลของจอมยุทธ์อินทรี เอี้ยก้วย มาหลอมรวมทั้งตีขึ้นใหม่ พร้อมนั้นจอมยุทธ์หญิง อึ้งย้ง ได้นำแผ่นเหล็กที่สลักตำราพิชัยสงครามของซุนวูและจากนั้นก็ตำรับตำราเรียนเก้าอิมจินเก็งแอบเอาไว้ภายในศาสตราวุธทั้ง 2 ด้วย

หลายสิบปีผ่านไป ในปลายเชื้อสายหยวนเป็นที่พูดถึงในยุทธโลกว่า ถ้าคนไหนกันได้ครอบครองกระบี่ฆ่ามังกรรวมถึงกระบี่อิงฟ้าแล้วผู้นั้นจะพบความลับอันยิ่งใหญ่ที่ซุกซ่อนอยู่ในของมีราคาทั้งสอง ดังต่อไปนี้เองก็เลยทำให้ชาวยุทธต่างเผาผลาญกันเพื่อได้กระบี่ฆ่ามังกรแล้วก็กระบี่อิงฟ้ามาถือสิทธิ์ นานเข้าได้มีการแยกชาวยุทธออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรกเป็นการจับกลุ่มของ 6 สำนักใหญ่ในยุทธโลกที่เรียกตัวเองว่าข้างความดีเลิศ

นำโดย เส้าหลิน, บู๊ตึ้ง, ขอคืนดีไบ๊, ป่วนปั่นนหลุน, บางครั้งอาจจะท้ง ดาบมังกรหยก ตอนประมุขพรรคมาร รวมทั้ง หัวซานส่วนอีกข้างนำโดยพรรคที่แยกสาขามาจากประเทศอิหร่าน ในชื่อ พรรคสว่าง หรือที่ถูกเรียกชื่อในยุทธโลกว่าเป็นพรรคมาร ซึ่งพรรคแน่ชัดนี้ดำเนินการลึกลับรวมทั้งเป็นศัตรูต่อทางการและจากนั้นก็ชาวยุทธข้างศีลธรรม มีศูนย์กลางอยู่ที่ทิวเขาเจิดจ้า

โดยมี 4 ผู้คุ้มกฎของพรรค (อินทรีขนคิ้วขาว, ค้างคาวปีกเขียว, ราชสีห์ขนทอง แล้วหลังจากนั้นก็ มังกรเสื้อม่วง) ที่ความรู้ความเข้าใจยอดเยี่ยม รอดูแลควบคุมพรรคและจากนั้นก็เมื่อยุทธโลกมีการแบ่งกันอย่างงี้ โดยเหตุนั้น หากศิษย์ทั้งสองฝ่ายคบกัน จะมีโทษจนตาย แม้ปรากฎว่า เตียมักง่ายซัว ศิษย์คนที่ 5 ของนักพรต จางซานฟง ที่บู๊ตึ้ง ได้ผูกสมัครรักใคร่กับ ฮึงซู่ซู่ ลูกหญิงของ อินทรีย์ขนคิ้วขาว ซึ่งเป็น 1 ในผู้คุ้มกฏของพรรคแจ่มกระจ่าง ซ้ำยังสาบานเป็นลูกพี่ลูกน้องร่วมสาบานกับ เจี่ยซุ่น (ราชสีห์ขนทอง)

วันหนึ่ง เจี่ยซุ่น ได้ทำชิงกระบี่ฆ่ามังกรมาครอบครอง และจากนั้นก็ฆ่าชาวยุทธเยอะมากๆเพื่อชักนให้ เซ่งป่วนปั่นน ปรากฎตัว เนื่องด้วยอยากได้ชำระแค้น เซ่งปะทุน ที่ได้ทำฆ่าครอบครัวของเขาทั้งหมดทั้งปวง ด้วยเหตุนั้น เพื่อหลีกลี้ความไม่มีระเบียบเรียบร้อย อีกทั้ง 3 ก็เลยได้หลบไปยังเกาะร้างแห่งหนึง กระทั่ง เตียมักง่ายซัว แล้วก็ ฮึงซู่ซู่ ได้ให้กำเนิดผู้สืบสายเลือดเป็นลูกชายนามว่า เตียบ่อกี้ 10 ปีผ่านไป ในวันเกิดครบรอบ 100 ปีของนักพรต จางซานฟง

ทั้งยัง เตียมักง่ายซัว รวมถึง ฮึงซู่ซู่ ก็เลยได้ตกลงปลงใจพา เตียบ่อกี้ เดินทางกลับจำเป็นต้องหยวนเพื่อมาอวยพรวันเกิดของนักพรต จางซานฟงถึงแม้ในระหว่างทาง เตียบ่อกี้ ได้ถูกทำร้ายด้วยฝ่ามือสุภาพเรียบร้อยจาก 2 ผู้เฒ่าร้ายกาจ ร้ายยิ่งกว่านั้นทั้งยัง เตียมักง่ายซัว UFABETWIN666 รวมทั้ง ฮึงซู่ซู่ ได้ถูกกลุ่มชาวยุทธจาก 6 สำนักใหญ่ขู่กรรโชกให้บอกที่ซ่อนตัวของราชสีห์ขนทองรวมทั้งกระบี่ฆ่ามังกร แม้ว่าด้วยความมีความดีเลิศรวมทั้งความผูกพันธ์กับ เจี่ยซุ่น ก็เลยทำให้ทั้งคู่

จำเป็นที่จะต้องยอมฆ่าตนเองเพื่อรักษาความลับที่หลบของ เจี่ยซุ่น เอาไว้ The Kung Fu Cult Master ทำให้ เตียบ่อกี้ แปลงเป็นกำพร้าและจากนั้นก็จะต้องเก็บกดความแค้นนี้ไว้ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านไป นักพรต จางซานฟง อุตสาหะใช้พลังวัชร์ เพื่อรักษาอาการพิษในร่างกายของ เตียบ่อกี้ มาตลอด แต่ว่าก็ทำเป็นแค่เพียงยั้งพิษไว้ ไม่ให้ทะนงมากเท่าไรนัก หากแม้ไม่สามารถรักษาให้ขาดได้

เนื่องแต่มีก็แค่พลังเก้าสุริยันของเส้าหลินเพียงเท่านั้น ที่จะรักษาอาการพิษเย็นนี้ได้ 7 ปีผ่านไป เตียบ่อกี้ โตเป็นหนุ่มน้อยใหญ่ โดยอาศัยอยู่ที่สำนักบู๊ตึ้งเพื่อหาทางรักษาอากรพิษเย็นในตัว The Kung Fu Cult Master รวมทั้งเพราะเหตุว่าพิษเย็นที่อยู่ในตัวนั่นเอง ก็เลยทำให้ เตียบ่อกี้ ไม่สามารถที่จะซ้อมวิทยายุทธอะไรก็แล้วแต่ได้เลย นั่นเอง ก็เลยทำให้เขาถูกใจโดนการรังแกจาก ซ่งแชจือ ศิษย์พี่ใหญ่รุ่นที่ 3 (ลูกของศิษย์พี่ใหญ่รุ่น 1 ซ่งเอี้ยงเกี้ย) อยู่เสมอ

เหตุเพราะความอิจฉาริษยาที่แลเห็นอาจารย์ปู่ (นักพรต จางซางฟง) และก็อาจารย์อาทุกคนให้ความรักแล้วก็เอ็นดูในตัว เตียบ่อกี้วันหนึ่ง ซ่งแชจือ ได้คิดแผนร่วมกับศิษย์คนอื่นๆและ จิวจี้เยียก ศิษย์จากสำนักขอคืนดีไบ๊ แกล้งตราบจนกระทั่งเค้าเกิดตกซอกเขาไปพร้อมกับ เพื่อนฝูงเจียว แต่ดวงยังดีที่พวกเขาไม่ตาย หนำซ้ำยังได้พบกับหัวมังกรไฟที่มีวิชาพลังเก้าสุริยันที่จะช่วยให้เตียบ่อกี้หายจากพิษฝ่ามือใจเย็น และก็ในตอนที่เขาเดินทางไปยังพรรคล้ำหน้าเพื่อยั้งการต่อสู้กับ 6 สำนักใหญ่

เขาบังเอิญได้ฝึกหัดดีเลิศวิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลจนกระทั่งมีพลังยุทธลึกล้ำแล้วก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าคนใหม่ของพรรคแน่ชัดในขณะเดียวกัน ดาบมังกรหยก ตอนประมุขพรรคมาร เตี๋ยเมี่ยง องค์หญิงของดินแดนมองโกลได้เดินทางมายังยุทธโลกควรต้องหยวนแล้วก็ลักพาตัวคนของ 6 สำนักใหญ่ ในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับสำนักด้านหลังจบศึกกับพรรคล้ำหน้า นางทำเพื่อจุดมุ่งหมายอันใด จึงควรรอติดตามกันต่อไปนะฮะ

รีวิวความรู้สึกด้านหลังดูจบ กระบี่มังกรหชู ตอนกษัตริย์พรรคมาร

นี่เป็นภาพยนตร์จีนอีก 1 เรื่อง ที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขรวมทั้งแปลความใหม่จวบจนกระทั่งเกือบจะไม่เหลือเค้าของคำประพันธ์เดิมเลย นอกจากเค้าเรื่องหลักที่ยังเพียงพอมีส่วนคล้ายกับต้นฉบับอยู่บ้าง แม้ว่าในส่วนของรายละเอียดและก็กิริยาท่าทางนิสัยของนักแสดงทั้งหมด แทบจะไม่ได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับเลย แถมยังมีการใส่คำพูดตลกเข้าไปในหลายๆฉากอีกด้วย

ในเวอร์ชั่นนี้ เราจะได้แลเห็นการตีความหมายให้ เตียบ่อกี้ มีนิสัยที่ค่อนจะเจ้าคิดเจ้าไม่ชอบ มีความทะเยอทะยาน และกระด้างอยู่พอสมควร ซึ่งที่ตรงนี้ ค่อนจะต่างจากงานประพันธ์เดิมที่ เตียบ่อกี้ จะเป็นคนที่มีความดีสูงแล้วก็มีนิสัยอ่อนโยนในส่วนของ ซ่งแชจือ แล้วก็ จิวจี้เยียก ถูกแปลให้แปลงเป็นตัวร้าย

ที่ร้ายแบบเพียงแค่โผล่มาฉากแรกก็รู้เลยว่า นี่เป็นตัวร้ายของเรื่อง ร้ายแบบที่ไม่น่าจะมีความดียังเหลือในตัวเลย (ถึงเป็นหนังไทย น้องจักจี้เยียก อาจจะเดินตลาดในหน้าทุเรียนมานะบากบั่นแน่ๆ)บทของ เพื่อนสนิทเจียว เวอร์ชั่นนี้ ถูกให้ความใส่ใจค่อนจะจำนวนมาก มีบทบาทจำนวนมาก ดาบมังกรหยก ตอนประมุขพรรคมาร รวมทั้งที่สำคัญ ซิวซู่เจิน ในบท สหายเจียว หัวข้อนี้ งามมากมาย

รีวิว The Creator: การรบคนปะทะ AI

ไซไฟหลักสำคัญคุ้น กับวิชวลเมืองไทยที่แปลกล้ำเช่นเดียวกันกับ Midjourney

ถึงแม้ก่อนหน้านี้ มึงเร็ท เอ็ดเวิร์ดส์ (Gareth Edwards) จะเป็นผู้กำกับสายหนังไซไฟที่ดูแลหนังมาเพียง 4 เรื่องเท่านั้นเอง แต่ 3 เรื่อง ไล่ตั้งแต่เรื่องแรก ‘Monsters’ (2010) งานไซไฟสยองขวัญทุนต่ำ 500,000 เหรียญ ก่อนโจนมาจับแฟรนไชส์ไซไฟฟอร์มยักษ์ทั้ง ‘Godzilla’ (2014) รวมถึงผลงานที่ลือลั่นก็บางทีอาจหนีไม่พ้น ‘Rogue One: A Star Wars Story’ (2016) ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม ปีนี้ เอ็ดเวิร์ดส์ขอกลับมาจับงานไซไฟออริจินัลของตนเองอีกครั้งใน ‘The Creator’

ตัวหนังได้ คริส ไวซ์ (Chris Weitz) นักเขียนบทร่วม รวมถึง เกร็ก เฟรเซอร์ (Greig Fraser) ผู้กำกับภาพที่นำมาจาก ‘Rogue One’ มาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ที่น่าสนใจเป็น การใช้โลเคชันสถานที่เที่ยว แล้วก็สถานที่สำคัญในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทยกว่า 40 สถานที่จาก 16 จังหวัด ใน 212 ฉาก นอกจากนี้ก็ยังมีคนประเทศไทยไปร่วมดำเนินการด้าน Production Service และก็เป็นดาราภาพยนตร์มี น่าจะเป็นหนังฝรั่งที่มีชื่อคนประเทศไทยในเครดิตมากที่สุดเรื่องหนึ่งแล้วล่ะ

ในด้านงานดูแลถือว่าเขาทำออกมารุ่งโรจน์ไม่น้อย ดาบมังกรหยก ตอนประมุขพรรคมาร ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ออกมาได้อย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเนื้อความที่ทรงพลังอำนาจ ผ่านการร้อยเรียงของภาพและจากนั้นก็งานศิลปต่างๆที่ทำให้หนังเรื่องราวเรื่องนี้เต็มไปด้วยอรรถรสความสนุกที่เคล้าไปกับฉากชีวิตของคนคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยรสจำนวนมากที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

เขาได้ร่วมเขียนบทกับ “เดวิด คราวค” ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วบ่อยมาก โดยพวกเขาทั้งคู่ใช้เวลาปลุกปั้นเขียนบทหนังเรื่องนี้นานร่วมปี โดยได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสารคดีเรื่องสั้น The Man Without a Mask ที่พวกเขาเคยสร้างเอาไว้ในปี 2016 รวมถึงเอามาขยายเผยแพร่เรื่องเล่าให้ยาวขึ้น ผ่านมุมมองชีวิตของ ค้างสซานโดร ตัวจริง ที่ปฏิบัติภารกิจเป็นที่ปรึกษาด้วย